สบายดี ... วังเวียง Day 1

ได้ยินคำร่ำลือมานักต่อนักว่า ครั้งนึง ต้องไปเยือนวังเวียงให้ได้นะ เราก็คอยแต่จะหาข้อมูล อ่านรีวิวอยู่ร่ำไปว่า วังเวียงมันมีอะไร ทำไมต้องไป ไปช่วงไหน ไปแล้วไปทำอะไร บลาๆๆๆ มัวแต่อ่าน มัวแต่เก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ จนได้รู้ว่า ถ้าไม่ไป มันก็ไม่ถึงซะที!!!

ประกอบกับการได้เข้า Group ในเฟซบุค จนรู้ว่า เฮ้ย แกร~~~ มันมีทริปท่องเที่ยวแบบหารเฉลี่ยด้วยอ่ะ แบบจ่ายเงินให้เค้า แล้วเค้าก็พาเราไปเที่ยวตามที่ต่างๆ เวิร์กค่ะ เวิร์ก!!! แถม Group ที่เราจอยอยู่มีพาไปเที่ยววังเวียงด้วยค่ะ เลิศศศ!!! กดจอง >> โอนเงิน >> เก็บกระเป๋า >> ไปกันเล๊ยยยย

วันที่ 19 พ.ค. 2559 

20.00 น. เวลานัดรวมตัวค่ะ เราเจอกันที่ BTS หมอชิต แต่ด้วยความว่า เป็นเวลาเลิกงาน และช่วงวันหยุดยาว รถติดมากกกก  กว่าเราจะได้ล้อหมุนก็เกือบ 3 ทุ่มแล้วค่ะ
21.00 น. ล้อหมุนค่ะ ..... พกหมอน พกผ้าห่มไป รถตู้ที่เราใช้เดินทาง เป็นรถตู้ VIP 9 ที่นั่ง ขึ้นรถปุ๊ป ก็หลับปั๊ปค่ะ

รถวิ่งเข้าเส้นสายตะวันออกเฉียงเหนือค่ะ อยุธยา >> สระบุรี >> นครราชสีมา >> ขอนแก่น >> อุดรธานี ไปจนถึงหนองคายค่ะ 

วันที่ 20 พ.ค. 2559 

8.00 น. เช้านี้ที่หนองคายค่ะ แวะล้างหน้าล้างตา ทำธุระส่วนตัว

เราจะโกอินเตอร์กันแล้วค่า~~

8.30 น. เขียนใบเข้า-ออกประเทศไทยให้เรียบร้อย (เขียนทั้ง 2 ใบนะคะ ลงรายละเอียดต่างๆ ให้ครบถ้วน) แล้วผ่านเข้า ตม. กันเล๊ยยยย >> ได้ออกนอกประเทศไทยแล้วค่ะ ~~ 

ผ่าน ตม. แล้ว เตรียมเงิน 20 บาทค่ะ เป็นค่ารถข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 

*** ใบเข้า-ออกประเทศ จะมี 2 ใบนะคะ เขียนข้อความทั้ง 2 ใบ แล้วก็อย่าทำหายหล่ะ เด่วไม่ได้กลับเข้าประเทศ ** 

9.00 น. ถึง ตม. ประเทศลาว ก็เขียนใบเข้า-ออกประเทศลาวให้เรียบร้อย (เขียนทั้ง 

 ใบนะคะ ลงรายละเอียดต่างๆ ให้ครบเหมือนเดิม)

เขียนใบเสร็จ ยื่น ตม. เสร็จ ก็เตรียมเงิน 5 บาท ไปซื้อ One Way Ticket ค่ะ (เป็นตั๋วเข้าประเทศลาว คล้ายๆ กับบัตร BTS บ้านเรา อัตราค่าทำบัตรนี้ จะแตกต่างกันไปตามวันนะคะ ยังไงลองเช็กอัตราราคาได้ที่ ตม. ค่ะ)

10.00 น. ได้เข้าลาวอย่างแท้จริงแล้วค่ะ หลังจากที่ยื่นเอกสาร และใช้ One Way Ticket เข้าประเทศลาวแล้ว ก็หาแลกเงินได้เลยค่ะ มีธนาคารรับแลกอยู่ใน ตม. เลย

เราไป 2 วัน 1 คืน (ไม่กังวลเรื่องที่พัก เพราะในทริปเค้าเตรียมที่พักไว้ให้แล้ว)
แลกเฉพาะเงินกินเงินเที่ยวค่ะ ยื่นไป 1500 บาท ได้มา 3 แสน 4 หมื่นค่ะ!!!
ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิดหรอก 3 แสน 4 หมื่น แต่เป็น กีบ นะ!! 5555 

เงินลาวจะมีแต่เป็นแบงค์ค่ะ เริ่มตั้งแต่ 500, 1000, 2000, 5000, 10000, 20000, 50000 และ 100000 กีบ โดยที่ 1 บาทบ้านเรา จะเท่ากับประมาณ 200 กีบ

วิธีคิดง่ายๆ เค้าบอกให้ตัดเลขศูนย์ 3 ตัวหลังออก
แล้วเอาที่เหลือคูณ 4 จะเท่ากับเงินไทยค่ะ 

ต.ย. เป๊ปซี่ขวด ราคา 5000 กีบ ตัดศูนย์ 3 ตัวหลังออก
เหลือ 5 เอา 5 ไปคูณ 4 เท่ากับ 20 = 20 บาทค่ะ 

อ้ออ !!! ใครจะซื้อซิมลาว เพื่อรับสัญญาณ 4G ของลาว ก็สามารถหาซื้อซิมได้ที่ ตม. เลยก็ได้นะคะ หรือจะไปซื้อที่วังเวียงก็ได้ แต่เราใจร้อน ขาด Net แล้วจะตาย คล้ายๆ ลงแดง 555  เลยซื้อซะตั้งแต่ที่นี่เลย

ราคาซิม 20000 กีบค่ะ ซื้อบัตรเติมเงินเพื่อให้ Net ใช้ได้อีก 5000 กีบ 
เราใช้แค่นี้ค่ะ เพราะที่โรงแรมก็มี Wi-Fi (แล้วแกจะซื้ออีกทำไมเนี่ยย) 











11.00 น. ออกจาก ตม. มีรถตู้มารับอีกเหมือนเดิม (คนละคันกับในไทยนะคะ เพราะรถที่ลาวจะขับด้วยพวงมาลัยซ้ายค่ะ) ขับตุเลงๆๆ ไปวังเวียงกันค่ะ

14.30 น. ถึง วังเวียง แล้ว ไชโย๊~~  เราเข้าพักที่นี่ค่ะ โรงแรมรุ้งนคร วังเวียง พาเลซ (Roungnakhon Vang Vieng Palace) จากที่กระซิบถามไกด์มา ที่นี่คือโอเคสุดในวังเวียงค่ะ คิดเป็นเงินไทย ประมาณคืนละ 1000 บาทค่ะ ฟรีอาหารเช้าด้วยนะคะ คุณขา!!

แวะเข้าห้องพัก อาบน้ำอาบท่ากันหน่อย ชั้นไม่ใช่คนสกปรกนะเธอว์~












16.00 น. ไป สะพานส้ม กับ ถ้ำจัง กันค่ะ (นั่งรถไปจากที่โรงแรมประมาณ 30 นาทีค่ะ)

 สะพานส้ม เป็นสะพานแขวนทอดข้ามผ่านลำน้ำซอง ทำจากเหล็กสีส้ม เลยเป็นที่มาของชื่อ "สะพานส้ม" และเป็นทางข้ามไปยัง ถ้ำจัง ค่ะ

มีค่าธรรมเนียมในการข้ามสะพานส้มด้วยนะคะ 2000 กีบค่ะ 

ข้ามสะพานส้มมา ก็เป็นน้ำตกเล็กๆ ตรงทางขึ้นถ้ำจังค่ะ มีนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำกันพอประมาณ 

ถ้ำจัง (Tham Chang หรือ Jung Cave) เป็นถ้ำที่อยู่บนเขา ต้องขึ้นบันไดที่มีความลาดชัน จำนวน 147 ขั้น เพื่อจะขึ้นไปยังถ้ำนี้ ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยเต็มไปหมด แบ่งเป็น 2 โซนนะคะ คือ โซนซ้ายและโซนขวา โดยในโซนขวามือ จะมีหินงอกหินย้อยมากมาย ให้เดินดูในอากาศที่เย็นสบาย เหมือนติดแอร์เลยค่ะ ส่วนโซนซ้ายมือ จะเป็นทางให้ออกไปสู่จุดชมวิวของถ้ำจัง ที่มองออกไปจะเป็นลำน้ำซอง และทุ่งนาเขียวขจี เรียกว่า อิ่มธรรมชาติระดับสุด เลยหล่ะค่ะ  

ค่าธรรมเนียมเข้าชมถ้ำจัง คือ 15000 กีบค่ะ ซื้อบัตรเข้าที่ด้านล่าง 

แล้วไต่บันไดขึ้นไป 147 ขั้น ถึงจะเจอคนเก็บตั๋ว 55555 

อ้อ!! ถ้ำนี้ จะปิดให้เข้าชมประมาณ 5 โมงเย็นนะคะ เพื่อความปลอดภัย เพราะภายในถ้ำจะมืดและเปียกลื่น ต้องกะเวลานิดนึงในการมาเยี่ยมชมถ้ำจังนะคะ 

18.00 น. กลับมากินข้าวเย็น ริมแม่น้ำซอง และพักผ่อนตามอัธยาศัย 

20.00 น. ประจำที่ Sakura Bar ค่ะ ทุกวันที่นี่ จะมี Free Bar ก่อน 3 ทุ่มค่ะ จะมีเหล้ารินใส่แก้วเรียงไว้ เราเข้าไปถึงก็บอก Mixer เค้าค่ะ (โค้ก สไปร์ท น้ำส้ม น้ำเปล่า .... ไม่มีโซดานะ เพราะมันแพง 55555) 

ราตรีนี้ยังอีกยาวไกลค่ะ ..... เอ้า ชนนน!!! 

22.00 น. ออกจาก Sakura Bar ไปต่อกันที่ Jungle Bar ค่ะ ทุกๆ วันศุกร์ เค้าจะฟรีค่าเข้าก่อน 5 ทุ่ม (ปกติค่าเข้าอยู่ที่ 30000 กีบ) มาให้ไว ไปให้เมา ค่ะ 5555

Jungle Bar เป็นบาร์ที่อยู่นอกเมืองวังเวียงออกไปนิดนึงค่ะ อยู่ก่อนท่าที่เค้าจะไปปล่อยเราล่องห่วงยางอ่ะค่ะ (เด่วมาพูดถึงเรื่องล่องห่วงยางใน Day 2 นะ) เราสามารถขึ้นรถสองแถวจากหน้า Sakura Bar ได้เลยค่ะ ค่ามา ไม่คิดตังค์ แต่ค่ากลับคิดคนละ 10000 กีบค่ะ บาร์นี้ปิดเกือบเช้านะคะ เริงร่ากันได้ทั้งคืน เพลงที่เปิดจะเป็นแนว EDM ตื้ดๆ หน่อย ยิ่งดึก ฝรั่งยิ่งคึกค่ะ ^___^

02.00 น. หัวฟาดหมอน นอนแล้วค่าาาา  เจอกัน Day 2