วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2559

หิวๆ เราก็มา ... เตาถ่าน

เอาตามชื่อบล็อกเนอะ .... หิวก็กิน อิ่มก็เที่ยว ... วันนี้เราหิวๆ ก็เลยมากิน "บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง" ที่ร้าน "เตาถ่าน" กันค่าาาา

ร้านเตาถ่าน อยู่กลางซอยเอกมัยเลยค่ะ อยู่ตรงตึกให้เช่า ParkAvenue ตรงข้ามร้านนั่งเล่น (ถ้ามาจากหน้าปากซอยเอกมัย ก็ตรงมาเรื่อยๆ พอผ่านแยกไฟแดง ก็เตรียมเลี้ยวขวาได้เลยค่ะ)

ร้านนี้เปิดมาซักพักแล้ว จากที่ถามๆ มา เค้าว่า ร้านนี้เป็นการร่วมหุ้นของพวกนักดนตรีที่มาเล่นดนตรีสดในร้านย่านเอกมัย ก็ดูโอเคนะ นักดนตรีหันมาเปิดร้านปิ้งย่าง เข้ากั๊น เข้ากัน!!!

เมนูร้านนี้มีทั้งแบบ A la carte และแบบ Buffet ค่ะ ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้ว เรามาทั้งที ต้องจัด Buffet แน่ๆ จะมามัวชักช้าอยู่ไย "เอาเมนูม๊าาาาาาาา"

แบบ Buffet ก็มีให้เลือกไปอีก คือ แบบหมู หรือ แบบเนื้อ (คนกินหมู สั่งเนื้อไม่ได้ แต่คนกินเนื้อ สั่งได้หมดเบยย  วะฮะฮ่าๆๆๆ)

วันนี้เราไปกันเยอะค่ะ เลยเลือกทั้ง 2 แบบเลย แต่อันตัวเรานั้น #กูเป็นสัตว์กินเนื้อ ค่ะ ..... ฉะนั้น เอาเนื้อมาๆๆๆๆๆๆ

Set เนื้อ จะมี เนื้อลาย เนื้อสันคอ เนื้อติดมัน และความเด็ดมันอยู่ที่ เนื้อหนอก ค่ะ เข้าปากทีนี่กลิ่นเนื้อหอมฟุ้งตีเกลียวขึ้นมาเลยค่ะ


Set หมู จะมี หมูสไลด์ สันคอหมู เบคอน ตับหมู ซึ่งสันคอหมูนุ่มมากกกกกก คอนเฟิร์ม นุ่มระดับสิบ!!! ในส่วนของหมูนั้น ทางร้านเค้าจะมีน้ำหมักราดมาให้ด้วยค่ะ ซึ่งความอร่อยมันก็อยู่ตรงน้ำหมักนี่แหละ ที่ช่วยเพิ่มรสชาติของเนื้อหมูที่อร่อยอยู่แล้ว ให้อร่อยขึ้นได้อีก!!!





นอกจากทั้งหมู และเนื้อ ยังมีอื่นๆ อีกมากมายค่าาาา ทั้ง แซลมอน เนื้อไก่ ปลาหมึก ปลาดอรี่ เห็ดออริจิน ผักสด ผักยำ ผักย่าง กิมจิ ซุปสาหร่าย ไข่ตุ๋น ข้าวสวย ข้าวกระเทียม สลัดข้าวโพด








จุดเด่นที่พีคมากๆ สำหรับร้านปิ้งย่าง ที่ร้านนี้ดีกว่าร้านอื่นๆ คือ กระทะปิ้งย่าง ของที่นี่ เป็น เทฟลอน แจร้!!! ซึ่งมันดีงามมากค่ะ คุณขา เพราะไร้กังวลเรื่องคราบติดกระทะไปเลยค่าา ถ้ารู้สึกว่า เนื้อเริ่มติดกระทะก็แค่เอากระดาษทิชชู่พับหนาๆ หน่อย ลงเช็ด แค่นี้ คราบติดแน่นก็จะหลุดร่อนออกไปอย่างง่ายดาย ...... ถ้าคุณโทรมาใน 10 นาทีนี้ .... ถุ้ย!!! ไม่ใช่แล้ว!



อีกเอกลักษณ์นึงที่ร้านนี้ ไม่เหมือนร้านปิ้งย่างแบบอื่นๆ เราว่า อยู่ที่ น้ำจิ้ม นะ มันเลิศอ่ะ รสชาติมันจะหวานๆ เค็มๆ เอาอะไรลงไปจิ้มก็อร่อยอ่ะ!!! เราเป็นคนนึงที่กินน้ำจิ้มแบบไม่ปรุงเพิ่ม แต่เพื่อนเราที่ไปด้วยนี่จัดเต็มทั้ง พริก กระเทียม น้ำมะนาว ... นางว่า ปรุงแล้ว รสชาติน้ำจิ้มยังไม่เสียไปเลย แถมยังอร่อยขึ้นด้วย ... แถมที่ร้านนี้ไม่หวงเครื่องนะคะ พริกหมด เติม!! น้ำมะนาวหมด เติม!! กระเทียมหมด เติม!! .... ชนะเลิศ!!!


ข้ามฝั่งมาที่เครื่องดื่ม และของหวานนั้น ร้านเตาถ่านมีบริการน้ำดื่มแบบรีฟีลด้วยนะจ๊ะ มีทั้ง เก๊กฮวย เก๊กเขียว ชาเชียว น้ำแอปเปิ้ล จนไปถึงน้ำอัดลมเลยค่ะ ดีงามมม!!!

แต่ในส่วนของของหวานนั้น .... เราขอโทษจริงๆ ที่ซัดเอาแต่ของคาว เลยได้ลองสั่งของหวานมาแค่อย่างเดียว คือ ไอศกรีมรสมะนาว ค่ะ ..... เลยไม่รู้ว่า ของหวานอย่างอื่นมีอะไรมั่ง และอร่อยมั้ย?? .... สงสัยต้องไปซ่อมคราวหน้า 55555



บริการของร้านนี้ ยกป้ายให้ 9 คะแนนค่ะ (เต็ม 10) บริการดี พูดจารู้เรื่อง อาหารไว ไม่งอแง สั่งผักย่าง ไม่เอาหัวหอม ก็ได้ไม่มีหัวหอม สั่ง 5 ก็ได้มา 5 .... แม้จะโปะมาในถาดเดียวกันเลยก็ตาม!!! ดูดน้ำไปครึ่งแก้วปุ๊ป ขออนุญาตเติมน้ำปั๊ป .... สงสัยเป็นนโยบาย "เติมน้ำเข้าไป มันจะได้อิ่มเร็วๆ" 55555555 แต่ดีค่ะ ประทับใจ .... ขอแอบหักคะแนนเล็กน้อย เพราะช่วงที่สั่งรอบ 2 แอบได้ช้า ทำให้สมรรถภาพในการกินถูกขัดจังหวะ!!!! 55555




ค่าเสียหายของร้านนี้ >>>

ถ้าเป็น Set หมู อยู่ที่ 329 + 39 (ค่าน้ำรีฟีล)
ถ้าเป็น Set เนื้อ อยู่ที่ 429 + 39 (ค่าน้ำรีฟีล)

** ราคานี้ยังไม่รวม Vat 7% นะคะ (แต่ไม่มี SVC) **

วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2559

สบายดี ... วังเวียง Day 3

หลังจากที่หมดพลังไปกับ One Day Trip ของวังเวียง ทั้งโดดน้ำ เล่น ZipLine ล่องห่วงยาง ....

เช้านี้ตื่นมา ปวดตัวสุดๆ ค่ะ เดินก็โอยย นั่งก็โอยย 55555 ปวดตรูดมากค่ะ ณ จุดนี้ 

วันที่ 22 พ.ค. 59 




06.30 น. ยังอยู่กันที่ รุ้งนครวังเวียงพาเลซ ค่ะ มื้อเช้าก็ยังเป็นบุฟเฟ่ต์เหมือนเดิม แถมไลน์เดิมอีกต่างหาก!!

ถ้าใครเบื่อแล้ว ลองเดินออกมาหน้าโรงแรมได้ค่ะ มันจะมีร้านขายขนมปัง แซนวิช และแพนเค้กวางเรียงรายเป็นทิวแถวเลยค่ะ มีให้เลือกหลายแบบด้วย ราคาเริ่มต้นที่อันละ 20000 กีบค่ะ


08.00 น. โบกมือลาวังเวียง แล้วนั่งรถตู้คันเดิมเดินทางเข้าสู่ เวียงจันทน์ กันจ้าา

12.00 น. ถึง ประตูชัย เวียงจันทน์ ค่ะ





ประตูชัยนี้ สร้างเสร็จในปี 2512
โดยมีจุดประสงค์ในการสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์สถาน ระลึกถึงประชาชนชาวลาวที่เสียสละชีวิตในสงครามก่อนเกิดการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์
ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของประตูชัย เวียงจันทน์นี้
มีความคล้ายคลึงกับประตูชัยที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
(เป็นเพราะลาวเคยตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสนั่นเอง) 




ประตูชัย เวียงจันทน์ มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชม 3000 กีบค่ะ เปิดให้เยี่ยมชมตั้งแต่ 08.00 - 17.00 น.
ชั้น 1-3 เป็นบันไดวนๆ ค่ะ ไม่ชันเท่าไหร่ เดินได้ แต่เหนื่อย!!
ชั้น 4 จะเป็นบริเวณขายของที่ระลึกค่ะ เช่น ผ้าซิ่น เสื้อยืด สินค้าที่ทำจากไม้ ฯลฯ
ชั้น 5 จะเป็นจุดชมวิว 1
ชั้น 6-7 จะเป็นซุ้มเล็กๆ และเป็นจุดลมวิว 2



เราขึ้นไปคาอยู่แค่ชั้นที่ 5 ค่ะ แถมถ่ายรูปมาแค่มุมเดียวอีกต่างหาก 5555 เด๋อจริงๆ (สงสัยรอบหน้าต้องไปซ่อม ขึ้นให้ครบ และถ่ายรูปมาให้ครบทุกมุม) 

13.00 น. กลับมายืนที่ ตม. เหมือนเดิมค่ะ

ลาว ก็มี Duty Free นะคะ ชื่อร้าน Haven แต่เราไม่เดินค่ะ ..... เราเดินร้านข้างๆ เป็นตรอกเล็กๆ ขายสินค้าแบบแม่สายบ้านเราเลย 55555 นี่ซิคะ คุณค่าที่เราคู่ควร!!!


เตรียม Passport ใบเข้า-ออกประเทศอะไรให้พร้อม



แล้วก็ไปต่อคิวซื้อ One Way Ticket เหมือนเดิมค่ะ ขาเข้า เรามาวันธรรมดา เสียแค่ 5 บาท แต่ขากลับ เรากลับวันอาทิตย์ ถือเป็นวันหยุด เค้าคิด 50 บาท



ยื่นอะไรเสร็จปุ๊ป ก็ซื้อตั๋วรอรถข้ามสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาวเหมือนเดิมค่ะ 20 บาท




บ๊าย บาย เมืองลาว ...... เราจะมาอีกแน่นอน สัญญา!!! 



วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2559

สบายดี ... วังเวียง Day 2

หลังจากที่เมื่อคืน กรึ่มๆ อยู่ทั้ง Sakura Bar และ Jungle Bar ทั้งเหล้า ทั้งเบียร์ ฉะนั้น เราจะข้ามมันไป แล้วมาเริ่มเช้าวันใหม่ที่งดงาม ในวังเวียง "กุ้ยหลินเมืองลาว" กันนะคะ ท่านผู้โช้มมมมม

วันที่ 21 พ.ค. 59 

06.00 น. รับเช้าวันใหม่อย่างสดชื่นนนน ล้างหน้าล้างตา เราไม่อาบน้ำค่ะ
ใจๆ บอกกันตรงนี้เลย 5555 เพราะเด่วเราจะไปเยือนบลูลากูนแล้ว 




06.30 น. หิวโซมากินบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าฟรีค่ะ ไลน์อาหารเช้าของโรงแรมรุ้งนคร จะง่ายๆ ค่ะ ไม่หวือหวา ข้าวผัด ข้าวสวย ข้าวต้ม ผัดผัก ออมเล็ต เฝอ (หรือก๋วยเตี๋ยวของลาว เราก็ไม่มั่นใจ) ขนมปัง ชา กาแฟ น้ำส้ม น้ำเปล่า มีแค่นี้ค่ะ ...... แค่นี้ แต่เราเดินไปตักตั้ง 3 รอบแน่ะ 5555 ก็แหม!!! มื้อเช้ามันสำคัญที่สุดของวันนี่ค่ะ จริงมั้ย!!??!!



08.00 น. ไปร้าน One Day Trip กันค่ะ เราเหมาซื้อทริปแบบ 1 วัน โดยเริ่มที่ บลูลากูน >> แวะกินข้าวเที่ยง >> ZipLine (อันนี้จ่ายแยกนะคะ ไม่รวมในทริป) >> ถ้ำน้ำลอด >> ล่องห่วงยาง//พายเรือคายัค 

ร้านที่เราไป มีราคาดังนี้ค่ะ 
  • บลูลากูน >> ข้าวเที่ยง >> ถ้ำน้ำลอด >> ล่องห่วงยาง ..... 160000 กีบ 
  • บลูลากูน >> ข้าวเที่ยง >> ถ้ำน้ำลอด >> พายเรือคายัค ... 100000 กีบ 
  • ZipLine อันนี้จ่ายแยกนะคะ ตกคนละ 160000 กีบ (ถ้าคิดเป็นเงินไทย จะประมาณ 695฿ แต่เค้าจะคิด 700฿ ถ้วนค่ะ) 



เราเลือกแบบล่องห่วงยางค่ะ เพราะใฝ่ฝันมานาน อยากจะล่องห่วงยางในลำน้ำซอง ชิวๆ มองธรรมชาติไป สายน้ำก็ไหลไปเรื่อยๆ เอื่อยๆ ลมเย็นๆ พัดมา ....... เด่วรอดูภาพจริงค่ะ!!!! 

09.00 น. นั่งรถสองแถวไปบลูลากูนกันค่าาา~~~ Blue Lagoon จ้า มาเยือนแล้วจ้าาา!!!! ระหว่างทางมีหมอกด้วยค่าา สมชื่อกุ้ยหลินเมืองลาวมากๆ





วังเวียงเป็นเมืองที่มีภูเขาเยอะค่ะ ธรรมชาติยังอุดมสมบูรณ์มากๆๆๆๆ ขับรถไปนี่เห็นแต่ทุ่งหญ้าเขียวไปหมดเลย อากาศก็เย็นสบาย สดชื่นมากๆ ค่ะ สูดหายใจได้เต็มปอด แค่กๆๆๆๆ แอบสำลักกลิ่นขี้วัวเล็กน้อย 55555 

10.00 น. มัวแต่ถ่ายรูปกันสายหมอกอยู่นาน จะมาถึงแล้วจ้าาา บลูลากูน ท้องน้ำสีเขียวอมฟ้า บ่งบอกเลยค่ะว่าน้ำลึกมาก เห็นคนนำเที่ยวเค้าว่าลึก 3 เมตรนะคะ หรืออาจจะมากกว่านั้น ..... มือพี่นี่คว้าชูชีพเลยค่ะ!!!



จะเข้าบลูลากูนก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมนะคะ 10000 กีบค่ะ 

ภายในบลูลากูน จะมี 2 ฝั่งนะคะ คือฝั่งที่เป็นกิ่งไม้ให้กระโดดน้ำ มุมเด็ดของที่นี่!! และฝั่งที่เป็นสไลเดอร์ค่ะ




เราเล่นอยู่แต่ฝั่งที่เป็นกระโดดน้ำค่ะ เพราะสไลเดอร์เสียตังค์ 5555

ค่าเล่นสไลเดอร์ เสียคนละ 10000 กีบค่ะ แต่เล่นได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง แอบรู้สึกว่าเปลืองตังค์ เลยไม่เอาดีกว่า จริงๆ ถ้าคิดเป็นเงินไทย ก็แค่ 40 บาทอ่ะ ซื้อหนมกินยังมากกว่านี้อีก แต่นี่ตั้ง 10000 กีบแน่ะ เปลืองงง!!! (ทั้งๆ ที่มันก็เท่ากัน 5555) 

เราไปถึงเช้าค่ะ ยังไม่มีใครมา บลูลากูนเป็นของเรา ปีนขึ้น ปีนลง โดดน้ำกันตู้มต้ามมม  ชั้น 2 ของที่นี่ เป็นเหมือน Wall of Frame ใครมาก็ต้องโดด!!! เรามาถึง ก็ต้องโดดค่ะ!!!!



ตู้มมมมมมมมมมมมมม กรรมการยกป้าย 10 10 10 

เล่นน้ำกันจนตัวเปื่อย ก็มีแวะขึ้นไปไหว้พระบนถ้ำปูคำค่ะ 

ถ้ำปูคำ (Phukam Cave หรือ Crab Gold Cave) มีระยะทางขึ้นถ้ำประมาณ 80 เมตร แต่เป็น 80 เมตรที่ลาดขึ้นค่ะ คุณผู้โช้มมมม ไต่กันขึ้นไปค่ะ!!!! ภายในถ้ำจะมืดสนิท ไม่มีไฟฟ้า ถ้าจะเข้าไปต้องพกไฟฉายไปด้วยนะคะ (แต่ที่นั่นเค้าก็มีให้เช่านะ) ด้านในของถ้ำจะมีหินงอกหินย้อยตามธรรมชาติให้ชม เข้าไปด้านในจะมีพระพุทธรูปปางนอนให้กราบไหว้





สาเหตุที่ถ้ำนี้ชื่อว่า ถ้ำปูคำ เพราะว่า ข้างในถ้ำนั้นเป็นที่อยู่ของปูทองคำค่ะ คือไม่ใช่ปูที่มีกระดองเป็นทองคำแท้ๆ นะ แต่เป็นปูที่มีกระดองสีเหลืองทองค่ะ คนเค้าก็เลยเรียกที่นี่ว่าเป็น "ถ้ำปูคำ" 








11.00 น. ออกจากบลูลากูน ก็ตอนที่ทัวร์เริ่มมาลง 55555 เดินโอปป้าๆ มาแต่ไกล เราชิ่งดีกว่า!!! ขึ้นรถสองแถวคันเดิมค่ะ ออกนอกเมืองออกไป เลยจังเกิ้ลบาร์ที่เรามาเรื้อนเมื่อคืนออกไป จนเป็นจุดแวะพักทานอาหารค่ะ แต่ยังค่ะ!!! เราจะยังไม่ทานกลางวันค่ะ เพราะความสนุกยังรอเราอยู่!!! 

ไปเหินฟ้ากับ ZipLine กันค่าาา~~~

การเล่น ZipLine ก็คือการโหนตัวเองไปกับเส้นลวดสลิงที่ขึงระหว่างต้นไม้นั่นเอง เราเพิ่งเคยเล่นเป็นครั้งแรก แต่สนุกมากกกกกกกก ติดใจ!!! ของทริปนี้เป็น ZipLine ประมาณ 6-7 ฐานค่ะ ก่อนอื่นก็เดินๆๆๆๆ ไต่ๆๆๆ ขึ้นบันไดบนต้นไม้ขึ้นไปจนถึงฐาน 


จากนั้นก็ ฟิ้วววววววววววววววว~~~ ลอยไปเลยค่าาาาาา~~~





จากฐานนึงไปฐานนึง อันนี้ไม่น่ากลัวหรอก มันจะมาเสียวท้องน้อยก็ตอนฐานสุดท้าย ที่ต้องโรยตัวลงมาพื้นดินนี่แหละค่ะ เราลงเป็นคนแรก เลยไม่มีรูปมาอวด แต่ขอบอก กรี๊ดดังลั่นป่าเลยค่ะ 55555 ก็แหม ต้นไม้สูงเกือบตึก 5-6 ชั้นอ่ะค่ะ หล่นวูบลงมา เป็นใครใครก็กรี๊ดดด 
















12.30 น. เติมพลัง ด้วยอาหารที่รวมในทริปค่ะ เป็นข้าวผัด บาร์บีคิว (คนนำเที่ยวเป็นคนปิ้งตอนเราไปเล่น ZipLine ค่ะ) กล้วยป่า ขนมปัง และน้ำเปล่าค่ะ .... ไม่ต้องถามว่า กินหมดมั้ย ถามว่า พอมั้ย?? ดีกว่าค่ะ








13.30 น. ย้ายตัวเองขึ้นรถสองแถวคันเดิม ไป ถ้ำน้ำ กันค่ะ จากที่เคยอ่านรีวิวมาหลายๆ ทริป เค้าบอกว่า ถ้ำน้ำเนี่ย เราจะต้องลงแล้วเดินเท้าผ่านทุ่งนา ผ่านหมู่บ้านเข้าไป เกือบ 30 นาที (ก็ไม่รู้ว่ากี่กิโลนะ เค้าไม่ได้บอกอ่าา)

ซึ่งในความโชคดีของเรานั้น!!!!  ทำให้เราไม่ต้องเดินเข้าไปค่าาาา 
คนขับรถพาเราขับรถปุเลงๆ กระเด้งกระดอน เข้าไปจนเกือบถึงหน้าถ้ำเลย 55555 



14.00 น. หยิบไฟฉายส่องกบ ฉวยห่วงยาง เตรียมเข้าถ้ำน้ำกันค่ะ เราเอากล้องกันน้ำเข้าไปด้วยนะ แต่ไม่ได้ถ่ายเลย เพราะมือมัวแต่สาวห่วงยาง 555555 ส่วนกล้องน่ะเหรอะ เอาปากคาบซิค่ะ เป็นภาระจริงๆ 

ด้านนอกของถ้ำน้ำ จะถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาค่ะ มีธารน้ำไหลออกมาจากปากถ้ำน้ำตลอดเวลา การจะเข้าภายในถ้ำน้ำ เราต้องนอนหงายบนห่วงยางค่ะ แล้วสาวเชือกไปตามทาง เข้าไปเป็นแถวๆ ค่ะ 

ภายในถ้ำอากาศและน้ำเย็นมากค่ะ 
เรียกว่า ยะเยือกเลยหล่ะ เราสาวเชือกไปเรื่อยๆ ตาก็มองไปยังผนังถ้ำ ซึ่งมีลักษณะเป็นหินปูนลวดลายต่างๆ .... 

คนนำเที่ยวเราเค้าบอกว่า ถ้ำนี้ คนลาวเค้าเชื่อกันว่า เป็นที่อยู่อาศัยของพญานาคค่ะ ซึ่งเวลาพญานาคท่านจะเดินทางไปไหน ก็จะเข้า-ออกผ่านเส้นทางนี้ ทำให้เกล็ดของท่านขูดผ่านถ้ำนี้จนเกิดเป็นลวดลายต่างๆ ค่ะ  .... ก็ว่ากันไปเนอะ ตามแต่ความเชื่อของคนละกันเนอะ 




เราใช้เวลาสาวเชือกตั้งแต่เข้าไปในถ้ำ จนออกมาข้างนอก ประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ แต่ก็มีเกินเวลาไปบ้างเพราะมัวแต่ถ่ายรูปที่หน้าถ้ำค่ะ .... คือไม่ได้ถ่ายในถ้ำ ขอถ่ายหน้าถ้ำก็ยังดี ^__^ 


จริงๆ ตามโปรแกรมแล้ว เราต้องแวะไป ถ้ำช้าง ด้วยค่ะ แต่ไม่รู้อีท่าไหน สงสัยคนนำเที่ยวเราลืม ..... เค้าเอาเราไปปล่อยที่จุดปล่อยเรือคายัค / ล่องห่วงยางเลยจ้าาา~~~ (สงสัยกะให้เรามาซ่อมคราวหน้า) 

15.30 น. เตรียมห่วงยางของคุณให้พร้อม เราจะ ล่องห่วงยางบนลำน้ำซอง กันแล้วค่าา~~~

เราเลือกล่องห่วงยางนะคะ เพราะเราเคยล่องห่วงยางที่แก่งกระจาน เพชรบุรีนี่แหละค่ะ ประมาณ 2 กิโล แล้วเรารู้สึกว่า มันดีมากกกก ฟินระดับแปด จนพี่ที่ล่องห่วงยาง (ที่แก่งกระจาน) ด้วยกัน เค้าบอกว่า "ถ้าได้ไปล่องที่วังเวียงจะฟินกว่านี้ เพราะเค้าล่องกันที 4 กิโล" เรางี้ตาเป็นประกายเลยค่ะ จนสุดท้ายได้มาล่องเองแล้ว 











ภาพในจินตนาการ : ล่องห่วงยางไปเรื่อยๆ น้ำไหลเรื่อยๆ แดดร่ม ลมพัดเอื่อยๆ มองนกมองไม้ สบายใจ 

ตัดภาพมาที่ความเป็นจริง เฮลลโหลววว!!! : น้ำนิ่ง ลงตรงไหน แปะอยู่ตรงนั้น แดดแรง ลมไม่กระดิก ไม่มีนก ไม่มีไม้ 555555555 นรกมากค่ะ!!! พลาดดดด!!! ระดับสิบ ..... วักน้ำจนคิดว่า ถ้ามีกีฬาแข่งวักน้ำ เราต้องได้เหรียญทองมาครองแน่ๆ 5555



โลกยังไม่สิ้นคนดี น้องในทริปเลือกพายเรือคายัคค่ะ .... เราก็ได้อาศัยพึ่งใบบุญของน้อง เกาะเชือกล่องมาด้วยค่ะ ....

เป็น 4 กิโลที่ชิวมากกกกกก ..... 
หราาาาาาาาาาา เกาะเชือกเป็นลูกช้างเกาะหางแม่เลย กำแน่นเลย กลัวหลุดมือ แล้วจะโดนทิ้ง 55555 

18.00 น. เป็นอิสระจากห่วงยางแล้วค่ะ คุณผู้ชม .... ล่องมาถึงจุดเก็บห่วงยางโดยสวัสดิภาพ ....เราไปช่วงที่ลาวเค้ามีประเพณีบุญบั้งไฟด้วยค่ะ .... จุดพีคมันคือ เราต้องล่องห่วงยางผ่านจุดที่เค้าจุดบั้งไฟกันด้วยค่ะ ..... โอ๊ยยยยย จ้ำอย่างไวอ่ะค่ะ ทั้งคนพายเรือ คนล่องห่วงยาง 555555 


19.00 น. อาบน้ำอาบท่า เตรียมกินข้าวเย็นค่ะ ..... เสียพลังงานไปทั้งวันแบบนี้ ส้มตำ - ข้าวเหนียวเท่านั้นที่ช่วยได้ ... ไม่มีรูปนะคะ เพราะหิวจัด!!! 

20.00 น. สัญญาณภาพโดนตัดเข้าข่าวค่ะ ตายอย่างสงบ!!! โดนดูดพลังงานหมดเกลี้ยง .... พบกันอีกที Day 3 นะคะ